5 อาชีพที่มาแรง ต้อนรับยุค AI ครองเมือง มีอาชีพอะไรบ้าง ? และทำไมถึงเป็นที่สนใจในตลาด ?

เมื่อ :
ผู้เข้าชม : 8,401
เขียนโดย :
5 อาชีพที่มาแรง ต้อนรับยุค AI ครองเมือง มีอาชีพอะไรบ้าง ? และทำไมถึงเป็นที่สนใจในตลาด ?
5 อาชีพที่มาแรง ต้อนรับยุค AI ครองเมือง มีอาชีพอะไรบ้าง ? และทำไมถึงเป็นที่สนใจในตลาด ?
เมื่อ :
ผู้เข้าชม : 8,401
เขียนโดย :

5 อาชีพที่มาแรง ต้อนรับยุค AI ครองเมือง

ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปในหลาย ๆ ด้าน และในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง ช่วงเวลาที่ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) เข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์มากขึ้น ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ ที่ปลดพนักงานนับร้อยนับพัน หลาย ๆ อาชีพเองก็ประสบปัญหาตกงานกันนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ สิ่งที่ใครหลาย ๆ คนกลัว ก็อาจจะไม่น่ากลัวเสมอไป เพราะการมาของ AI ทำให้หลายอาชีพต่างพากันตกงานก็จริง แต่ก็มีอีกหลายอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ และเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด

บทความเกี่ยวกับ Career อื่นๆ

ซึ่งในบทความนี้เอง จะมาแนะนำเกี่ยวกับอาชีพที่จะมาแรงในอนาคตปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023) มาดูกันว่าจะมีอาชีพไหนน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของตลอดในยุค AI ปัญญาประดิษฐ์ครองเมืองบ้าง เพื่อที่คุณจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการมองหาตำแหน่งงาน และเส้นทางการทำงานใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับยุคสมัยในอนาคตที่กำลังเข้ามาถึงนี้

5 อาชีพที่มาแรง ต้อนรับยุค AI ครองเมือง ปี 2023

เนื้อหาภายในบทความ

  1. ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
    (AI Machine Learning Specialists)
  2. ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน
    (Sustainability Specialists)
  3. นักวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ
    (Business Intelligence Analysts)
  4. นักวิเคราะห์ความปลอดภัยข้อมูล
    (Information Security Analysts)
  5. วิศวกรฟินเทค
    (Fintech Engineers)

1. ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
(AI Machine Learning Specialists)

ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Machine Learning Specialists) เปรียบเสมือนผู้สร้างหัวใจหลักของ AI โดยผู้ทีมีทักษะอาชีพทางด้านนี้จะช่วยศึกษา ออกแบบ และพัฒนา Algorithm ให้ระบบ AI สามารถทำงานและเรียนรู้ได้ด้วยตัวระบบเอง โดยจะประยุกต์ใช้ให้ตรงกับความต้องการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การแพทย์, การผลิต, การขนส่ง, การสื่อสาร, การเงิน และธุรกิจอื่น ๆ ได้มากมาย

ยกตัวอย่างเช่น การแพทย์ที่นำระบบ AI เข้ามาช่วยเหลือในการวินิจฉัยโรค เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล จากฐานข้อมูลทำให้การวินิจฉัยเป็นไปได้อย่างแม่นยำมากขึ้น หรือ สายการผลิตที่นำระบบ AI มาช่วยตรวจจับข้อพกพร่อง คาดการณ์การซ่อมบำรุง เสริมความปลอดภัยให้พนักงานภายในโรงงาน ได้เป็นต้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ จะมีบทบาทเป็นอย่างมากในการพัฒนาระบบ AI ที่เป็นที่ต้องการในอนาคต

ตัวอย่างสายอาชีพ : Machine Learning Engineer, Data Engineer, Deep Learning Engineer

ทักษะที่จำเป็น : 

  • Coding and Computer Skills (ทักษะด้านการเขียนโค้ดและคอมพิวเตอร์)
  • Marketing Skills (ทักษะด้านการตลาด)
  • Machine Learning (การเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์)
  • Deep Learning (การเรียนรู้เครือข่ายประสาทของมนุษย์)
  • Mathematics and Statics (คณิตศาสตร์และสถิติ)
  • Natural Language Processing (NLP) and Computer Vision (ทำความเข้าใจระบบภาษาของคอมพิวเตอร์)

2. ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน
(Sustainability Specialists)

เพราะโลกนี้ยังคงต้องไปต่อ สิ่งที่จะขาดและละเลยไปไม่ได้ก็คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน (Sustainability Specialists) โดยอาชีพนี้จะช่วยเข้ามาวางแผนธุรกิจ บริหารจัดการความเสี่ยง ให้สอดคล้องกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการดำเนินการธุรกิจ โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตและอยู่ได้ในระยะยาว หลายบริษัทเองก็เริ่มปรับตัวและมองหาโซลูชันที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้

ทุกคนเองก็รู้กันดีว่า ทรัพยากรมีจำกัด แต่ความต้องการของมนุษย์นั้นมีไม่รู้จบ การมีอยู่ของเทคโนโลยี AI จะส่งผลต่อการใช้พลังงานและทรัพยากรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน จะสามารถเข้ามาช่วยดูแลและเติมเต็มรอยต่อของปัญหานี้ได้ ด้วยการออกแบบระบบที่ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กัน หนึ่งในหัวใจของอาชีพนี้ คือ การลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม คืนคุณภาพชีวิตและความสุขกลับสู่สังคม ส่งผลดีต่อทุก ๆ ฝ่ายในระยะยาว จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนในอนาคต

ตัวอย่างสายอาชีพ : Sustainability Strategy, Corporate Sustainability, Environmental Engineer

ทักษะที่จำเป็น : 

  • Foundational Knowledge (การจดจำข้อมูลพื้นฐาน)
  • Forward-Thinking (หัวก้าวหน้า)
  • Data Skills (การจัดการข้อมูล)
  • Technical Reports (การรายงานข้อมูลทางเทคนิค)
  • Environmental Compliance (การให้ความร่วมมือสิ่งแวดล้อม)
  • Innovation Skills (ทักษะด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม)

3. นักวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ
(Business Intelligence Analysts)

แน่นอนว่าสถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นักวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence Analysts) จะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในการพัฒนาระบบและเครื่องมือที่สามารถจัดการรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจให้เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หน้าที่หลัก ๆ ของนักวิเคราะห์ธุรกิจอัจฉริยะ คือ การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการทางธุรกิจ โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ จะทำให้เห็นภาพและแนวทางที่ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อได้ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร ได้อย่างสูงสุดในระยะเวลาที่เร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด

ตัวอย่างสายอาชีพ : Business Intelligence Developer, Business Intelligence Consultant, Business System Analyst

ทักษะที่จำเป็น : 

  • Analytics (การวิเคราะห์)
  • Communication (การสื่อสาร)
  • Creative Problem-Solving (การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์)
  • Critical thinking (การวิเคราะห์เชิงลึก)
  • Data Mining and Visualization (การรวมรวบและนำเสนอข้อมูลภาพ)
  • Marketing and Predictive Analytics (การวิเคราะห์คาดการสภาวะตลาด)
  • Machine Learning (การเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์)

4. นักวิเคราะห์ความปลอดภัยข้อมูล
(Information Security Analysts)

เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกถูกออนไลน์ทั้งหมด ข้อมูลที่มีความสำคัญ ก็ควรได้รับการปกป้อง นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Analysts) จะเป็นอาชีพที่จะเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยของข้อมูล วิเคราะห์โครงสร้างและออกแบบระบบที่สามารถป้องกันการเจาะและเข้าถึงข้อมูลภายในได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้และป้องกันการแฮกจากผู้ไม่หวังดี หรือ อีกชื่ออาชีพที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันดี ก็คือ Cyber Security นั่นเอง

ยกตัวอย่างธุรกิจสถาบันการเงิน เป็นธุรกิจที่ให้สำคัญในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการเข้าถึงทรัพย์สินภายในธนาคารและในรูปแบบดิจิทัล หากไม่มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้ ข้อมูลรายชื่อผู้ใช้และทรัพย์สินต่าง ๆ ก็จะสามารถถูกคนไม่ประสงค์ ปลอมแปลง และเข้ามาขโมยไปได้อย่างง่าย ๆ ดังนั้นการพัฒนาความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลจำเป็นต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการให้บริการด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างสายอาชีพ : Information Security Specialist, IT Auditor, Security Engineer

ทักษะที่จำเป็น : 

  • Security Analysis and Investigation (การวิเคราะห์และสืบสวนความปลอดภัย)
  • Cloud Security (รักษาความปลอดภัยของระบบ Cloud)
  • Customer Service (การดูแลบริการลูกค้า)
  • Risk Analysis and Negotiation (การประเมินความเสี่ยงและต่อรอง)
  • Data Management and Analytics (การบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล)
  • IoT Security (ดูแลรักษาระบบความปลอดภัย IoT)

5. วิศวกรฟินเทค
(Fintech Engineers)

สังคมไร้เงินสดถูกผลักดันมานานหลายปีและได้รับการตอบรับที่ดีมาก วิศวกรฟินเทค (Fintech Engineers) ก็เป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินและการบริการของธนาคารก็เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ วิศวกรฟินเทคจำเป็นต้องคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับธุรกิจการเงินและพัฒนาระบบเพื่อรองรับผู้ใช้จำนวนมากและยังคงความปลอดภัยไว้อย่างสม่ำเสมอ

ในวันที่เราไม่สามารถใช้ QR Code จ่ายเงิน หรือ โอนเงินผ่านแอปธนาคารได้ แค่เกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้น  ๆ ก็ทำให้เราเดือดร้อนได้ไม่น้อย ลองคิดดูว่าถ้าเกิดระบบธนาคารเกิดขัดข้องและล่มไปพร้อม ๆ กันจะเกิดอะไรขึ้น ? วิศวกรฟินเทคที่ดูแลอยู่เบื้องหลังการทำงานของระบบเหล่านี้ เป็นตัวกลางที่ทำให้ระบบการเงินนั้นเดินหน้าต่อไปได้ จึงไม่แปลกที่อาชีพนี้จะเป็นที่ต้องการในอนาคตต่อไป

ตัวอย่างสายอาชีพ : Fintech Developer, Fintech Analyst, Financial System Engineer

ทักษะที่จำเป็น : 

  • Java and Python Programming (เขียนโค้ดภาษา Java และ Python)
  • Data Science (วิทยาการข้อมูล)
  • Fintech Product Development and Marketing (การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด Fintech)
  • Cyber security and Data Privacy Management (การป้องกันข้อมูลไซเบอร์และการจัดการข้อมูลความเป็นส่วนตัว)
  • Financial Data Management (การบริหารจัดการข้อมูลด้านการเงิน)
  • Machine Learning (การเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์)