รู้จัก 5 ประเภทหลักของรูปแบบ คอนเทนท์การตลาด (5 Types of Content Marketing)
5 ประเภทหลักของรูปแบบคอนเทนท์ทางการตลาด
(5 Types of Content Marketing Formats)
พูดถึง คอนเทนท์ หรือ เนื้อหาทางการตลาด (Content Marketing) เราก็มักจะนึกถึงการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ได้มากที่สุดผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่มีในมือ เพื่อสร้างการรับรู้ให้ได้มากที่สุด และทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และแน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะมองไปที่ การเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก เพราะว่าใคร ๆ ก็ล้วนมีโซเชียลมีเดียอยู่ในมือกัน ทำให้เราอาจจะหลงลืมช่องทางอื่น ๆ ที่สามารถทำหน้าที่กระจายข่าวได้ดีไม่แพ้กัน ดังนั้น ลองไปดูช่องทางเหล่านี้ที่อาจช่วยคุณในการทำการตลาดได้ไม่มากก็น้อยกัน
1. การตลาดโดยใช้ คอนเทนท์บล็อก
(Blog Content Marketing)
ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ใช้การเขียน บล็อก (Blog) เป็นตัวช่วยในการทำการตลาด 97% จะได้รับลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของตัวเองมากขึ้น เนื่องจากการเขียนบล็อกนั้น สามารถประหยัดต้นทุนได้ดีเยี่ยมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบจำกัด
เครดิตภาพ : https://www.copypress.com/blog/8-ways-to-enhance-your-blog-content/
การใช้บล็อกโพสต์เพื่อทำการตลาดนั้น จะได้ประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้มันโปรโมทอย่างถูกวิธี นั่นก็คือ แทนที่คุณจะเขียนถึงโปรดักต์ใหม่ที่คุณมีว่ามันจะเปลี่ยนชีวิตคุณให้สะดวกสบายขึ้นได้อย่างไรบ้าง ก็เปลี่ยนเป็น เขียนหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ๆ แทน เช่น แทนที่จะเขียนโปรโมทว่า "หุ่นยนต์ทำความสะอาดตัวใหม่มีฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าสนใจ ?" ก็เปลี่ยนเป็น "การมีหุ่นยนต์ทำความสะอาด ช่วยในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง ?" แล้วถ้ามีฟีเจอร์ใหม่ที่โปรดักต์ของคุณภูมิใจเสนอ มันจะช่วยเรื่องอะไร ประหยัดเวลาได้มากน้อยแค่ไหน เป็นต้น
และโดยรวมแล้วก็คือ ผู้อ่านต้องการรู้ว่า คุณรู้อะไรบ้าง และคุณสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้ามีได้อย่างไร แน่นอนว่า ล้านคนก็ล้านปัญหา ไม่ใช่ทุกปัญหาที่จะมีคนเคยพูดถึงไปแล้ว ดังนั้น ลืมเรื่องการยึดติดกับคีย์เวิร์ดไปเสียบ้าง เพราะประสบการณ์ของผู้ใช้งานนั้นเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าในยุคปัจจุบันแล้วนะ
2. การตลาดโดยใช้ คอนเทนท์แบบอินโฟกราฟิก
(Infographic Content Marketing)
ในบรรดารูปแบบที่หลากหลายของการทำคอนเทนท์ทางการตลาด อินโฟกราฟิก (Infographic) คือคอนเทนท์รูปแบบหนึ่งที่สามารถสร้างการรับรู้เป็นวงกว้างได้ดีสำหรับนักการตลาดดิจิตอล ซึ่งถ้าหากว่ามีอินโฟกราฟิกดี ๆ สักชิ้นหนึ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจในรูปแบบของการแชร์และการคลิกลิงก์ได้ล่ะก็ จะทำให้มีผู้คนสนใจและรู้จักโปรดักต์ของคุณในวงกว้างได้ไม่ยากเลย
เครดิตภาพ : https://stang.sc.mahidol.ac.th/lib-Infographic/copyright.php
แน่นอนว่า เราไม่สามารถใช้อินโฟกราฟิกได้กับทุกอย่าง แล้วก็ไม่ควรทำแบบนั้นด้วย เพราะจะต้องเลือกเวลาการโพสต์ที่เหมาะสม และรูปแบบกราฟิกที่เข้ากับคอนเทนท์ของเรา รวมไปถึงการที่จะต้องเลือกให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย
อินโฟกราฟิกที่จะประสบความสำเร็จในการเข้าถึงผู้คน จะต้องเข้าใจง่าย กระทบต่อความรู้สึก และมีความหมาย จุดประสงค์หลักก็คือการนำเอาข้อมูลที่ซับซ้อนจากบรรดาข้อมูลที่ได้ศึกษามาหรือรวบรวมมา นำมาย่อยให้เหลือแต่เพียงส่วนที่สำคัญที่สุดเพื่อสื่อสารออกไปเท่านั้น โดยสามารถใช้ข้อมูลจากบล็อกหรือคอนเทนท์เดี่ยว ๆ มาใช้ก็ได้ แต่ต้องจำไว้ว่า ความ "ง่าย และมี อิมแพกต์" พร้อมด้วยข้อมูลที่สามารถสื่อจุดสำคัญได้ดีเท่านั้น จึงจะตอบโจทย์ลูกค้าได้
3. การตลาดโดยใช้ คอนเทนท์พอดคาสต์
(Podcast Content Marketing)
สำหรับ พอดคาสต์ (Podcasts) คุณภาพสูง เป็นสิ่งที่สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลในนักการตลาดดิจิตอลบางราย ถึงแม้ว่ามันจะฟังดูห่างไกลจากการเป็นทางแก้ปัญหาเรื่องคอนเทนท์ในการทำการตลาด แต่ถ้าหากคุณมีอุปกรณ์ที่อยู่ถูกที่ถูกทาง และเหมาะสำหรับการทำพอดคาสต์แล้วล่ะก็ เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายในการผลิตคอนเทนท์สักชิ้นหนึ่งขึ้นมา
ข้อมูลเพิ่มเติม : Podcast คืออะไร ? ทำไมถึงชื่อว่าพอดแคสต์ ? และทำไมถึงเป็นที่นิยม ?
เครดิตภาพ : https://www.freepik.com/free-photo/two-men-with-microphones-headphones-running-podcast_27508449.htm#query=podcast&position=8&from_view=search
และถ้าหากคอนเทนท์ดังกล่าวได้รับการแจกจ่ายทางเครือข่ายพอดคาสต์แล้วได้รับความนิยมอย่างล้นหลามแล้วล่ะก็ ถึงเวลาที่ต้องวางแผนปล่อยพอดแคสต์ตัวถัดไปล่วงหน้าแล้วล่ะ เพราะไม่อย่างนั้น ความนิยมหรือการรับรู้ของแบรนด์ที่มีก่อนหน้า ก็จะสูญสลายหายไปอย่างน่าเสียดาย
การใช้พอดคาสต์ที่ได้รับการจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านการทำพอดคาสต์ ก็จะสามารถช่วยให้คุณเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มเฉพาะ (Niche Market) ได้ง่ายขึ้น และถือเป็นการแสดงภาพลักษณ์ของสินค้าในอีกทางหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากวิธีเดิม ๆ ด้วย
4. การตลาดโดยใช้ คอนเทนท์วิดีโอ (Video Content Marketing)
คอนเทนท์วิดีโอ (Video Content Marketing) อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงในการผลิตแต่ละชิ้นงานออกมา รวมไปถึงการที่ต้องใช้เวลาในการทำงานพอสมควร ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำ ไปจนถึงการตัดต่อ ตรวจทาน จนกระทั่งออกมาสู่สายตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นที่ต้องการของลูกค้าที่ติดต่อจ้างงานเพื่อทำการโปรโมทและขายสินค้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่นิยมการอ่านผ่านตา แต่คนที่ชอบดูวิดีโอ ก็ยังคงอยากดูวิดีโอมากกว่าถึงแม้ว่าจะสามารถไปลองสินค้าจริงที่ร้านได้เลยก็ตาม
โดยวิดีโอที่ผ่านการตัดต่อมาอย่างดี จะสามารถแสดงด้านที่แตกต่างออกไปของธุรกิจของเราได้ (แบบเดียวกันกับที่พอดคาสต์ทำ) และสามารถทำงานได้ดีกว่าในแง่ของการสร้างคอนเทนท์เพื่อจำลองการทำงานของโปรดักต์หรือภาพของสินค้า ว่ามันจะเป็นไปในลักษณะไหน หรือมีการทำงานอย่างไรบ้าง ?
เครดิตภาพ : https://www.freepik.com/free-photo/creative-company-professional-movie-footage-editor-sitting-multi-monitor-workstation-while-editing-film-frames-expert-videographer-improving-video-quality-using-specialized-software_26344354.htm
สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ การสร้างแคปชันให้กับคลิปวิดีโอ และมีข้อความเกริ่นนำเพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ เราก็จะสามารถใช้คอนเทนท์นี้ได้เรื่อย ๆ ทั้งบนเว็บไซต์หลัก, บนบล็อก, หน้าโซเชียลมีเดีย, หรือแม้กระทั่งอีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์แคมเปญของเรา
5. การตลาดโดยใช้ คอนเทนท์โซเชียลมีเดีย
(Social Media Content Marketing)
โซเชียลมีเดีย (Social Media) ถือเป็นสิ่งที่มักจะถูกจัดทำแยกออกไปต่างหากจากคอนเทนท์รูปแบบอื่น ๆ ด้วยความที่มีกฏการโพสต์ที่แตกต่างออกไป ไม่เหมือนกับการทำคอนเทนท์การตลาดแบบที่กล่าวมาข้างต้น เพราะโซเชียลมีเดียต้องการผู้ชมให้เข้ามารับชมและตอบสนองโดยตรง และด้วยการใช้คอนเทนท์ประเภทนี้ เราจะต้องการ Engagement จากผู้ชมที่มีความชัดเจน เพื่อให้สามารถต่อยอดไปยังการวิเคราะห์หรือผลลัพธ์อื่น ๆ ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม : ยอด Engagement, ยอด Reach และ ยอด Impression คืออะไร ? เช็คยังไงได้บ้าง ?
การทำคอนเทนท์โซเชียลมีเดีย จะต้องใช้ความพยายามพอสมควร ในการมองหาประเภทของคอนเทนท์ที่สามารถเรียกผู้ติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ดี แต่ถ้าเรามีการผลิตคอนเทนท์ประเภทอื่น ๆ อยู่แล้วสำหรับการทำการตลาด ข่าวดีก็คือ เราสามารถนำมารีโพสต์ผ่านทางโซเชียลมีเดียได้อีกรอบโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีการเผยแพร่เนื้อหาซ้ำกันหลายที่จนเกินไป
เครดิตภาพ : https://www.freepik.com/free-vector/hand-drawn-illustration-people-with-smartphone-marketing_15635327.htm
ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ข้อมูลการเข้าถึงต่าง ๆ จะสามารถมองเห็นได้ค่อนข้างง่ายกว่า ว่าผู้ชมที่แวะเวียนมากดไลก์กดแชร์นั้นต้องการคอนเทนท์ประเภทไหน เช่น ชอบแบบวิดีโอ, แบบข้อความยาว ๆ แบบการอ่านผ่านบล็อก, ชอบแบบโพสต์ที่ดูเป็นการเป็นงานจากผู้บริหาร, หรือโพสต์ตลกโปกฮาจากบรรดานักเขียนประจำเพจ นอกจากนี้ เรายังสามารถวัดได้ด้วยว่า มีแทรฟฟิกจากโซเชียลมีเดียวิ่งไปหาเว็บไซต์ของเรามากน้อยแค่ไหน